5 พ.ค. 2554

ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ กับครูฯ

ครั้งนี้ขอพูดเกี่ยวกับคุณครูนะ เรื่องมีอยู่ว่า

เมื่อเราได้รับ(ทราบ)หนังสือประชาสัมพันธ์ ว่ามีทุนให้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ
พวกเราได้แต่หัวเราะ และบอกว่า 'หมดหวัง'   ทำไมน่ะหรือ


1.คู่แข่งมาก  หลายคนอาจจะคิดก็ไม่เก่งละซิ...ทำเป็นมาพูด ว่าคนเข้าแข่งขันมาก
 มันก็จริง.....ก็คนมันไม่เก่งนี่ เลยอยากไปพัฒนาตัวเองบ้าง.....ตามหลักการพัฒนาคน
 มันก็ควรพัฒนาคนไม่เก่งให้เก่ง(ฉลาด)ขึ้น  ไปให้ใกล้เคียงกับคนเก่ง.....มิใช่หรือ 
 เวลาสอนเด็กบอกว่า ต้องพัฒนาเด็กไม่เก่งให้มี ความรู้ ความสามารถให้มากขึ้น 

 ให้ใกล้เคียงกับคนที่เก่ง  เฮ้อ! เป็นงงเนาะ เวลาเด็กบอกให้พัฒนา ส่วนครูบอกไม่่ต้อง.... 
 (ถ้าไม่เก่งพอ)  แล้วให้ครูไม่เก่ง(สำหรับผู้ที่รู้ตัวว่าไม่เก่งแล้วอยากพัฒนา   แต่ไม่มี
 โอกาศได้พัฒนา) ไปสอนแล้ว .... จะได้ผลหรือจ๊ะ  

2. อายุเกิน  อันนี้ต้องโทษครูที่อายุมากเกินเกณฑ์ (ก็เกิดก่อนไง) โดยเฉพาะครู
ผู้หญิง ตอนอายุ ก่อน 30 ก็เพิ่งบรรจุ ยังตั้งหลักไม่ทัน .....พอตั้งหลักได้ก็แต่งงาน
มีตัวน้อยๆขึ้นมาอีก ก็เลี้ยงไปจนเข้าประถมฯ และเริ่มรู้สึกว่า ลูกดูแลตัวเองได้ดีแล้ว
ลูกก็เริ่มเข้ามัธยมฯ (ลูกอายุประมาณ 12-13 ปี) ตอนนั้น แม่ก็อยากลงสนามชิงทุน
แต่เสียใจด้วย  อายุเกิน  (ทุนส่วนใหญ่ กำหนดไว้ไม่เกิน 40 ปี)   นี่แปลว่า
คนยิ่งอายุมาก ก็ไม่ควรพัฒนามาก เพราะอาจจะเหลือเวลารับราชการไม่มาก
แค่เกือบ 20 ปีเอง
   
3. จำนวนทุนน้อยเกินไป  ทุนที่ให้มา  บางทุน ให้มา 3 ทุน คนเข้าแข่งขันเป็นหมื่น
(ถ้านับคนอยากเข้าแข่งขันจริงๆ)  เขาเรียกว่าแย่งกันหัวแตก (หัวชนกันน่ะ)
 แต่คนกลุ่มใหญ่ก็ต้องชั่งใจก่อนว่าคุ้มใหมถ้าคิดจะเข้าแข่งขัน คุ้มกับเวลา
และค่าใช้จ่ายในการไปถูกคัดเลือก(สอบข้อเขียน/สอบสัมภาษณ์)
แล้วใครจะเข้าสนามแข่งขันให้เหนื่อยใจ จริงใหม????

จำได้ว่า นั่งรถโดยสารเข้าเมือง และมีอาจารย์มหาวิทยาลัยนั่งมาด้วย 2 ท่าน 
และได้แอบฟังเรื่องที่อาจารย์ เค้าคุยกัน

ท่านแรก " นิด แล้วปีนี้จะไปประเทศไหนล่ะ   ปีที่แล้วเห็นว่าไปสหรัฐมา ทุนอะไรเหรอ
ไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง  แล้วปีนี้ที่จะไปนี่ได้ทุนอะไรล่ะ  แล้วไปช่วงเดือนไหนล่ะ
เรานะไปเยอรมันมาเมื่อปีที่แล้ว  ว่าปีหน้าว่าจะหาทุนไปเดนมาร์ก....."

ท่านแรกถามคำถามยาวเป็นกิโล  ...  แต่ท่านที่สอง ดูตอบแบบเสียไม่ได้
"ก็งั้นแหละ  นี่ต้องไปช่วงด้นเดือนพฤษภานี่แหละ ยังไม่หายเหนื่อยเลย ต้องไปอีกแล้ว."

ความรู้สึกเราขณะนั้นคืออิจฉาท่านอาจารย์ทั้ง 2 ท่าน นั้นมาก..ถึงมากที่สุดเลยละ
อาจารย์เค้าคุยกัน เหมือนกับอาจารย์เค้าเดินทางไปธุระที่ต่างจังหวัดเลยละ


ที่พูดมาทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่อะไรหรอก... อิจฉาน่ะ ตัวเองไม่เก่งเลยพาลน่ะ  เปล่า...
การที่จะเปิดประเด็นอะไรทั้งที....มันก็ต้องมีต้องมีเป้าหมายและมีข้อเสนอแนะกันบ้าง
ใช่ใหม??

ประการที่แรก ควรมีทุนบางประเภทเป็นทุนบังคับ โดยเฉพาะกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ
กลุ่มสาระ วิทยาศาสตร์   กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโยโลยี  ควรให้ครูไปเปิดหูเปิดตา
ว่าที่ต่างประเทศ เขาสอนกันอย่างไร มีอะไรบ้าง เขาไปกันถึงไหนแล้ว ควรจับครูที่สอนแบบ
เฉื่อยชา สอนไปวันๆ (คนเขียนก็เป็นแบบนี้ด้วยมั้ง?)ไปพัฒนา  ไปสัก 6 เดือน ไม่ใช่
6 สัปดาห์นะ  เพราะ 6 สัปดาห์น่ะ ยังคิดถึงบ้านอยู่เลย สำหรับคนที่ไม่เคยจากบ้าน 
(พูดราวกับว่า เคยไปอยู่ตปท.ทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่เคยไปเลยล่ะ ) เชื่อขนมกินได้ว่า
ต้องได้อะไร กลับมาสอนเด็กนักเรียนบ้าง  ดีกว่าอยู่เปล่าๆที่เดิมไปวันๆแน่ 
แต่ถ้าไม่ยอมไปด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ก็คงต้องให้พิจารณาตัวเอง ละมั้ง


ประการที่สอง  ทุนบางประเภท(น่าจะหลายๆประเภทก็ดี) ไม่ควรกำหนดอายุของ
ผู้สมัคร
แต่ควรกำหนดความต้องการ หรือความจำเป็น (ความอยากไป) ถ้ามีครูอยาก
ไปหลายคนแต่งบประมาณมีน้อย ก็ใช้วิธีเวียนกันไป ทุกคนก็ต้องได้ไปใช่ใหม??
รอคิวหน่อยก็แล้วกันเพื่ออนาคตของชาติ (นักเรียน) เชื่อว่าครูรอได้ ดีกว่าไม่มี
โอกาสเลยทั้งชีวิต


จำได้ว่าตอนเรียนต่อ มีพี่ร่วมรุ่นคนนึง ตอนที่มาสมัครสอบพี่เค้าอายุ 57 ปี ทุกคนรวมทั้ง
อาจารย์ที่สอนด้วยถามว่า "คิดอย่างไรถึงมาเรียน เรียน 2 ปี ถึง2 ปีครึ่ง  จบมาไม่กี่เดือน
ก็เกษียณแล้ว "  พี่เค้าก็บอกว่า  " อยากพัฒนาตัวเอง ดีกว่าอยู่ไปวันๆได้รู้บ้างว่า
มีอะไรไหม่บ้าง โลกเป็นอย่างไร  และอาชีพในวงการอื่นเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง"

พี่เค้าพูดได้ถูกต้องมาก ไม่ควรใช้อายุมาเป็นตัวปิดโอกาศสำหรับคนที่ยังมีไฟในหัวใจอยู่

อ้าว...ไงมาออกที่เรียนต่อ

พูดถึงการเรียนต่อนี่.....เป็นการพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างมาก ควรสนับสนุน
ให้ค่าลงทะเบียนไปเลย สำหรับคนที่เรียนนอกเวลาราชการ ไม่ได้ลาศึกษาต่อ
ต้องถือว่าคนคนนั้นเป็นคนที่สมควร ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง
และควรพิจารณาความดีความชอบเป็นพิเศษด้วย อาจจะเป็นเงินโบนัสพิเศษ
อะไรทำนองนั้นก็ได้  เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจสำหรับคนที่กระตือรือร้น
ในการพัฒนาตัวเอง

วันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะ

1 ความคิดเห็น: