18 เม.ย. 2556

ที่มาของเพลง ผู้ชายห่วยๆ



อ่านแล้วก็อมยิ้มไป เลยละ อย่างนี้ก็มีด้วยนะ  ลองอ่านดูเองก็แล้วกัน


                    พูดถึงเพลงๆ หนึ่งที่ผมได้มีโอกาสแต่งให้ “พี่มาช่า” และเป็นเพลงแรกในชีวิตการทำงานของผมกับพี่ช่า เพลงนั้นคือเพลง “ผู้ชายห่วยๆ” ที่ผมอยากจะหยิบเรื่องเพลงๆ นี้ขึ้นมาเขียนถึงเพราะมันมีหลายปัจจัยในการที่ผมแต่งเพลงมันขึ้นมา หลังจากที่ผมแต่งเพลงๆ นี้เสร็จ ก็ได้มีการนำเพลงนี้ขึ้นไปประชุมกับทีมเพลงใหญ่บนห้องประชุมใหญ่ของแกรมมี่ ซึ่งมีทั้งพี่ๆ ที่เห็นด้วยว่าควรจะโปรโมท และ มีทั้งพี่ๆ ที่ไม่เห็นด้วยที่จะโปรโมท และมีถึงขั้นจะไม่ให้เพลงนี้ผ่านเลยก็มี ด้วยเหตุผลที่ว่าเนื้อหาเพลงมันต่อว่าคนฟังที่เป็นผู้ชาย กลัวพี่ช่าจะดูเป็นคนปากจัดในสายตาคนฟัง ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ผมรับได้ และเข้าใจกับคอมเมนท์ได้ เพราะมันก็อาจจะเป็นแบบที่พี่ๆ เหล่านั้นเขาบอกมา แต่สุดท้ายพี่ช่าก็เป็นคนยืนยันด้วยตัวเองว่าจะร้องเพลงนี้ และอยากให้เพลงนี้เป็นเพลงโปรโมท ทำให้ผมได้มีโอกาสเขียนเพลงให้ศิลปินหญิงชื่อดังระดับต้นๆ ของแกรมมี่ “มาช่า”
                          ที่มาของเพลงนี้ก่อนจะมาถึงพี่ช่ามันก็มีเรื่องราวมาตลอดทาง กว่าจะเป็นเพลง “ผู้ชายห่วยๆ” จริงๆ แล้วตั้งแต่ต้นเพลงนี้ไม่ได้แต่งมาเพื่อให้พี่ช่าร้อง มันเป็นเพลงของศิลปินหญิงท่านหนึ่งมาก่อน ผมได้มีโอกาสทำงานกับศิลปินหญิงท่านนั้น และ เพลงนี้ก็ร้องออกมาจนทำเป็นมาสเตอร์เสร็จเรียบร้อยพร้อมออกวางขาย แต่ด้วยเหตุผลขัดข้องบางประการศิลปินท่านนั้นจึงไม่ได้ทำงานอัลบั้มของเธอต่อไป เพลงนี้จึงถูกลอยแพอยู่สักพักเพราะด้วยเนื้อหาเพลง ผมพยายามลองเสนอให้ศิลปินหญิงท่านอื่นมาร้องแทนก็ไม่มีใครกล้าร้อง ทั้งที่ในความคิดผมมันก็ไม่ได้เป็นเพลงเนื้อหาหยาบคายอะไร จนวันหนึ่งได้มาเจอพี่ช่า จึงลองเปิดให้พี่ช่าฟัง และก็ได้รับคำตอบตกลงร้องเพลงนี้ทันทีโดยที่เพลงยังเปิดไม่จบดี ทันทีที่เพลงถูกปล่อยออกไปทางวิทยุ และมีการปล่อยมิวสิกวิดีโอออกไป กระแสตอบรับกลับมาดีมากจนเกินคาด และทำให้มีสื่อต่างๆ ขอทำข่าวสัมภาษณ์ผมว่าเพลงผู้ชายห่วยๆ แต่งโดยผู้ชายจริงๆ เหรอ ทำไมถึงแต่งออกมาต่อว่าผู้ชายขนาดนี้
                          แรงบันดาลใจของการแต่งเพลงนี้มาจากการที่ผมได้ตื่นขึ้นมาดูข่าวบันเทิง และข่าววันนั้นได้เชิญแขกรับเชิญเป็นคนดังผู้ชายมาคนหนึ่ง เพื่อพูดถึงข่าวที่เขาเลิกกับแฟนสาว กระแสข่าวในตอนนั้นมีแต่คนในโลกไซเบอร์รุมด่าผู้ชายคนนี้ ซึ่งบทสนทนาในวันนั้น คนดังท่านนี้ได้ให้สัมภาษณ์ยาวพอสมควร ระหว่างที่ผมนั่งฟังอยู่ก็มีประโยคที่ว่า ทำไมคนไม่ด่าผู้หญิงคนนั้นบ้าง ผมอยากให้คนเห็นใจผมบ้างและช่วยกลับไปดูผู้หญิงคนนั้นดีๆ ว่าเขาร้ายขนาดไหน ทันทีที่ผมได้ยินประโยคนี้ ผมรู้สึกไม่เห็นด้วยว่าทำไมต้องอยากให้คนด่ากันไปด่ากันมา และสมควรหรือเปล่าที่ผู้ชายคนหนึ่งขอให้คนส่วนมากไปรุมด่าผู้หญิง
                          ระหว่างที่ข่าวยังไม่จบผมเดินไปหยิบกีตาร์และมานั่งแต่งเพลงผู้ชายห่วยๆ หน้าจอทีวีทันที เพลงนี้ใช้เวลาแต่งเร็วมาก แต่งจบไปพร้อมกับการสัมภาษณ์ผู้ชายคนนี้ ผมบอกความรู้สึกในตอนแต่งเพลงนี้จบไม่ถูกเหมือนกัน ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ผมก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรขนาดนั้น มันก็แสบๆ คันๆ ในใจตัวผมเองเช่นกัน และก็เหมือนฟ้าเป็นใจที่ผมได้มีโอกาสนำเพลงนี้ไปให้ผู้หญิงคู่กรณีในข่าวฟัง พร้อมกับบอกว่าผมแต่งเพลงนี้มาจากแรงบันดาลใจอะไร เธอยิ้มและบอกว่าถ้าเจ้าตัวคนในข่าวรู้ล่ะก็จะเป็นยังไงนะ ผมก็บอกตรงๆ ว่าทุกวันนี้ก็มีบ้างที่ผมได้พบผู้ชายคนนี้แบบระยะประชิด แต่ก็ยังไม่เคยกล้าบอกเขาไปเหมือนกันว่าขอบคุณที่คุณเป็นแรงบันดาลใจของผม และเป็นคนทำให้เพลงนี้พุ่งขึ้นสู่ยอดดาวน์โหลด TOP 5 ของแกรมมี่ในปีนั้น
                          สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือ กระแสของคนที่ฟังเพลงๆ นี้ มีคนหลายคนที่ชอบและสะใจ เข้ามาโพสต์ตามเว็บดังต่างๆ ว่าชอบเพลงบ้าง ชอบมิวสิกวิดีโอบ้าง แต่ที่ปะปนมาคือคนที่พยายามมาคอมเมนท์ด่าผู้แต่งเพลง ซึ่งก็หมายถึงผมนั่นเอง ในใจตอนแรกที่เห็นเราก็ตกใจเพราะคำแต่ละคำนั้นด่ากันมาแรงเหลือเกิน ตามประสานักเลงคีย์บอร์ด ด่าว่า “มึงเป็นผู้ชายจริงหรือเปล่าวะไอ้ตุ๊ด” ด่าว่าเพลงเนื้อหาแบบนี้ปล่อยออกมาได้ยังไง ด่าว่ามึงคงเป็นคนดีประเสริฐมากเลยสินะถึงได้แต่งเพลงด่าผู้ชายด้วยกัน...ตอนนั้นคิดว่าเอาแล้วไง เพลงนี้จะถูกแบนหรือเปล่า พี่ช่าจะถูกต่อต้านไหม หรือแกรมมี่จะโดนอะไรหรือเปล่า และมันจะกระทบกับหน้าที่การงานเราไหม
                          ในทางกลับกัน กลับยิ่งทำให้เพลงดัง และถูกนำไปเล่นตามผับบาร์ไปทั่วประเทศ จนมีวันหนึ่งผมได้มีโอกาสไปนั่งที่ลานเบียร์หน้าห้างดังกลางกรุงเทพฯ และวงที่เล่นดนตรีประจำอยู่ที่ลานเบียร์นั้นเล่นเพลงผู้ชายห่วยๆ บอกว่าเล่นตามคำขอที่คนเขียนกระดาษขอเพลงขึ้นมา ผมไม่อยากจะเชื่อหูและสายตาตัวเอง ขนาดไม่ใช่พี่ช่าร้องเอง คนในลานเบียร์นั้นร้องเพลงนี้กันดังสนั่น  รวมถึงคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นก็หยุดยืนดูและร้องไปด้วยกันในท่อนฮุกราวกับเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ของวงดนตรีวงนี้ หลังจากนั้นผมก็ลองตระเวนไปหลายๆ ผับ หลายๆ ลานเบียร์ และทุกครั้งที่ทุกที่เล่นเพลงนี้ ก็เกิดการตอบรับแบบเดียวกันหมด
                          เล่ามาถึงตรงนี้ผมก็บอกได้เลยว่า นี่คือหนึ่งในเพลงที่ผมรักมากเพลงหนึ่งในอาชีพการทำงานเป็นนักแต่งเพลงอาชีพ และในอีกมุมก็เสียดายแทนศิลปินหญิงท่านนั้นที่เธอก็มีโอกาสเป็นเจ้าของเพลงนี้ ว่าถ้าเธอร้องเองจะเป็นยังไง ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะดังขนาดนี้ไหม และเรื่องสุดท้ายเกี่ยวกับเพลงนี้คือ วันหนึ่งผมได้กลับไปนั่งที่ลานเบียร์หน้าห้างดังนั้นอีกครั้ง และวงประจำลานเบียร์ก็เล่นเพลงนี้อีก ทันทีที่เพลงผู้ชายห่วยๆ เล่นจบลง มีเฮียคนหนึ่งพูดเสียงดังขึ้นมาว่า “ใครแม่งแต่งเพลงนี้วะ มันด่ากูชัดๆ เลยนี่หว่า” เอ่อ....วันนั้นผมนั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ เฮียคนนั้นแหละครับ แอบยิ้มและขำไปในเวลาเดียวกัน เลยขอใช้พื้นที่ตรงนี้บอกแกสักหน่อย เผื่อแกจะยังไม่รู้คำตอบที่แกตะโกนถามขึ้นมาวันนั้น “ผมเองครับเฮีย”
                
                                                                              “ฟองเบียร์”

ดู MV ผู้ชายห่วยๆ


ภาพและข้อมูลจาก http://www.komchadluek.net