ในสายตาพ่อแม่ ลูกคือเด็กตัวเล็กๆของพ่อแม่... ที่พ่อแม่มองไม่เห็นว่าลูกโตแล้ว พ่อแม่ยังใช้คำพูดเดิมๆ
เหมือนตอนที่ลูกอายุน้อยๆ
เหมือนตอนที่ลูกอายุน้อยๆ
ส่วนลูกก็อาจจะบอกพ่อแม่ว่า “ เรื่องนี้ฟังเป็นรอบที่ร้อยแล้ว พ่อ(แม่)” พูดโดยไม่มองหน้าแม้แต่น้อยว่า
คนฟังรู้สึกอย่างไร (ก็ลูกกำลังรู้สึกรำคาญที่สุดนี่นา พูดซ้ำซากอยู่ได้ น่าเบื่อจะตาย) “ลูกรู้น่า....
ลูกโตแล้วนะ ไม่ต้องบอกหรอก...”
คนฟังรู้สึกอย่างไร (ก็ลูกกำลังรู้สึกรำคาญที่สุดนี่นา พูดซ้ำซากอยู่ได้ น่าเบื่อจะตาย) “ลูกรู้น่า....
ลูกโตแล้วนะ ไม่ต้องบอกหรอก...”
ลูก...คงไม่รู้ว่า คำพูดเหล่านี้ มันช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจของพ่อแม่ เสียเหลือเกิน
“ลูกรู้....ลูกโตแล้ว ไม่ต้องบอก” อาจจะบอก(ตัวเอง)ว่า ครั้งต่อไปพ่อ(แม่) จะพยายามไม่พูดคำพูดนี้อีก
แต่เชื่อไหมว่า อีกไม่นานแก(พ่อแม่) ก็จะพูดแบบเดิมๆอีก
แต่เชื่อไหมว่า อีกไม่นานแก(พ่อแม่) ก็จะพูดแบบเดิมๆอีก
ถามว่า ทำไมพ่อแม่ถึงทำอย่างนั้น ตอบง่ายๆ ก็เพราะรักน่ะสิ
ฟังดูแล้วเอียนอยากจะอ้วก มันลิเกอย่างไรไม่รู้ แต่เชื่อเถอะมันเป็นคำพูดลิเก.....ที่มันเป็นชีวิตจริง
ฟังดูแล้วเอียนอยากจะอ้วก มันลิเกอย่างไรไม่รู้ แต่เชื่อเถอะมันเป็นคำพูดลิเก.....ที่มันเป็นชีวิตจริง
แต่วัยรุ่นรับไม่ได้หรอก มันไม่ in trend ช่าง ......
ไม่ทราบเรา(วัยรุ่น)สังเกตไหมว่า คนที่ชอบพูดจาว่ากล่าวเราซ้ำซาก น่าเบื่อหน่ายนี่ น้อยคนนักที่จะเป็นคน
ที่เกลียดหรือไม่หวังดีกับเรา
ที่เกลียดหรือไม่หวังดีกับเรา
แต่เรามักมองว่าคนประเภทแรกนี้คือ ตัวมารร้ายเลยละ ที่เราค่อนข้าง ..ไม่ชอบ จนถึงเกลียด
เป็นตัวทำลายสังคม(ของเราวัยรุ่น) ที่ทำให้เราอารมย์เสีย หมดสนุก ช่างจู้จี้ขี้บ่น น่ารำคาญ
ส่วนคนประเภทหลังนี่(คนที่เกลียดหรือไม่หวังดีกับเรา) มักจะบอกว่ากัน(ลับหลังเรา)ว่า“อย่าไปยุ่ง
กับ...เขา.(มัน) ปล่อยเขา.(มัน) ไป เขา.(มัน)จะเป็นอย่างไรก็ช่างเขา.(มัน) ไม่ต้องเตือน เขา.(มัน)
ไม่ฟังหรอก หลีกได้หลีกเลย เราไม่ได้เป็นอะไรด้วย”
แล้วเรา(วัยรุ่น)จะชอบแบบไหนล่ะ เราก็ชอบคนที่ไม่จู้จี้ขี้บ่น เราจะทำอะไร อย่างไร ก็ไม่ต้องมีใครมาเตือนว่า
ทำอย่างนั้นไม่ดี อย่างนี้ไม่ดี และชอบสุดๆเลย ที่บอกว่า เราเก่ง เราดี สุดยอด เป็นตัวของตัวเองสุดๆ
(ทั้งที่ความจริง ทุกคนต้องเบือนหน้าหนี ทนไม่ได้ รับไม่ได้ แต่เราคิดว่าว่า เราเจ๋งสุด)
ทำอย่างนั้นไม่ดี อย่างนี้ไม่ดี และชอบสุดๆเลย ที่บอกว่า เราเก่ง เราดี สุดยอด เป็นตัวของตัวเองสุดๆ
(ทั้งที่ความจริง ทุกคนต้องเบือนหน้าหนี ทนไม่ได้ รับไม่ได้ แต่เราคิดว่าว่า เราเจ๋งสุด)
หลายครั้งที่เราอ่านพบที่ว่า “ทางไปสวรรค์ น่ะมันรก แต่ทางไปนรก น่ะมันสบาย” เราเห็นด้วยนะ
จะเห็นได้ว่า สถานบันเทิงเริงรมย์ต่างๆมักจะอยู่ในเมืองไปมาสะดวก บางแห่งอยู่ใกล้สถาบัน
การศึกษาอีกต่างหาก อะไรจะสะดวกสบาย....ปานนั้น ทีวัดที่ปฏิบัติธรรมดีๆ น้ำตกสวย ธรรมชาติดีๆ
โน่น...อยู่ซะไกล ....ในป่าโน่น ถ้าจะไปให้ถึงต้องมีทั้งความมุ่งมั่น ความพยายาม
จะเห็นได้ว่า สถานบันเทิงเริงรมย์ต่างๆมักจะอยู่ในเมืองไปมาสะดวก บางแห่งอยู่ใกล้สถาบัน
การศึกษาอีกต่างหาก อะไรจะสะดวกสบาย....ปานนั้น ทีวัดที่ปฏิบัติธรรมดีๆ น้ำตกสวย ธรรมชาติดีๆ
โน่น...อยู่ซะไกล ....ในป่าโน่น ถ้าจะไปให้ถึงต้องมีทั้งความมุ่งมั่น ความพยายาม
บางคนไปได้ครึ่งทางก็เลิกล้มความตั้งใจ บอกตัวเองว่า “ไกลจะตาย ไปนั่งกินไอ้ติม ในร้านในเมือง
ที่มีแอร์เย็นๆดีกว่า นี่ร้อนก็ร้อน เดินก็ไกล ไม่รู้ทำไมต้องมาลำบากลำบนกันขนาดนี้
ช่างโง่กันจริงๆ อยู่ในเมืองสบายๆไม่ชอบ (ว่าเข้าไปโน่น)”
ที่มีแอร์เย็นๆดีกว่า นี่ร้อนก็ร้อน เดินก็ไกล ไม่รู้ทำไมต้องมาลำบากลำบนกันขนาดนี้
ช่างโง่กันจริงๆ อยู่ในเมืองสบายๆไม่ชอบ (ว่าเข้าไปโน่น)”
ความรักของพ่อแม่ คงไม่เหมือนความรักของหนุ่มสาว ความรักของพ่อแม่เป็นความรักที่ไม่ได้
ต้องการสิ่งตอบแทน ต้องการแค่ให้ลูกมีความสุขในชีวิดเท่านั้น
หลายคนคงจะเคยได้รับรู้เรื่องของพ่อที่ต้องลงแข่งขันทั้งๆที่ตัวเองเป็นโรคหัวใจ
แต่เพื่อลูกผู้อยากลงแข่งขัน พ่อทำได้เพราะรักลูก ดูวิดิโอข้างล่างนี้ค่ะ
ต้องการสิ่งตอบแทน ต้องการแค่ให้ลูกมีความสุขในชีวิดเท่านั้น
หลายคนคงจะเคยได้รับรู้เรื่องของพ่อที่ต้องลงแข่งขันทั้งๆที่ตัวเองเป็นโรคหัวใจ
แต่เพื่อลูกผู้อยากลงแข่งขัน พ่อทำได้เพราะรักลูก ดูวิดิโอข้างล่างนี้ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น