ให้ออกจากงาน พูดง่ายๆคือถูกไล่ออก แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับชิวิตเรา เขียน
โดย โจแอน แฮมเบิร์ก "ฉันถูกไล่ออก :ชะตากรรมที่พลิกผันกลับกลายเป็น
สิ่งวิเศษสุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน"
หลังเรียนจบหมาดๆจากวิทยาลัยบาร์นาร์ดและสถาบันชวเลข ฉันได้งานเป็น
เลขานุการของบรรณาธิการนิตยสารคูปอง แม้ยอดขายจะน้อยนิดแต่ก็เป็นงานจริงจัง
ตอนนี้ฉันมีรายได้และมีอพาร์ตเมนต์ในแมนฮัตตัน นี่คือสวรรค์ของสาวรุ่นจากเมืองเล็กๆ
หกเดือนที่ฉันใช้ชีวิตแบบสาวๆในละครโทรทัศน์เรื่องเซ็กซ์แอนด์เดอะซิตี ฉันก็เหมือนผู้หญิงจำนวนมากในรุ่นเดียวกัน คือจบจากวิทยาลัยไปต่อโรงเรียนเลขานุการและเรียน
จดชวเลขหรือเขียนหนังสือเร็ว แม้ความจริงฉันเคยร่วมแต่งหนังสือเรื่อง นิวยอร์กวันละ
ห้าเหรียญ ดังนั้น ฉันจึงเรียนรู้การยังชีพแบบต่างๆ หรืออย่างน้อยก็ได้พยายามแล้ว
จดชวเลขหรือเขียนหนังสือเร็ว แม้ความจริงฉันเคยร่วมแต่งหนังสือเรื่อง นิวยอร์กวันละ
ห้าเหรียญ ดังนั้น ฉันจึงเรียนรู้การยังชีพแบบต่างๆ หรืออย่างน้อยก็ได้พยายามแล้ว
ตอนนี้ เราใช้ห้องชุดชั้นบนของโรงแรมเป็นที่ทำงาน และสถานที่นั้นแปลงโฉมเป็น
ที่นอนชั่วคราวสำหรับเพื่อนๆนักเที่ยวของเจ้านาย บางเช้ากว่าจะเดินไปถึงโต๊ะทำงานได้
ฉันต้องเหยียบข้ามเพื่อนๆบางคนของเขา
ที่นอนชั่วคราวสำหรับเพื่อนๆนักเที่ยวของเจ้านาย บางเช้ากว่าจะเดินไปถึงโต๊ะทำงานได้
ฉันต้องเหยียบข้ามเพื่อนๆบางคนของเขา
จากอดีตคนถนัดซ้ายเปลี่ยนมาถนัดขวาอันเป็นผลมาจากคุณครูผู้จู้จี้ ตอนนี้ ลายมือ
ของฉันก็เลยยิ่งกว่าไก่เขี่ย หวัดขนาดหลังจดตามคำบอกแล้ว ฉันยังแกะลายมือตัวเองไม่ออก
ของฉันก็เลยยิ่งกว่าไก่เขี่ย หวัดขนาดหลังจดตามคำบอกแล้ว ฉันยังแกะลายมือตัวเองไม่ออก
นิตยสารจะต้องพึ่งโฆษณา ดังนั้น ในจดหมายที่เขียนถึงผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ ฉันได้รับคำสั่ง
ให้เสนอโอกาสให้พวกเขาลงโฆษณาสี่สีในนิตยสารของเราในราคาเพียง 10,000 เหรียญ
ด้วยความสะเพร่า ตัวอักษร d ในคำว่า ads กลาย เป็นตัว s ดังนั้น ประธานบริษัทขนาดใหญ่
คนหนึ่งในจดหมายที่เราส่งออกไปจึงได้รับเชิญให้ "ลงก้นของเขาเป็นสี่สี" ในนิตยสารของเรา
ให้เสนอโอกาสให้พวกเขาลงโฆษณาสี่สีในนิตยสารของเราในราคาเพียง 10,000 เหรียญ
ด้วยความสะเพร่า ตัวอักษร d ในคำว่า ads กลาย เป็นตัว s ดังนั้น ประธานบริษัทขนาดใหญ่
คนหนึ่งในจดหมายที่เราส่งออกไปจึงได้รับเชิญให้ "ลงก้นของเขาเป็นสี่สี" ในนิตยสารของเรา
ลองเดาดูสิ เขาไม่พอใจและสั่งให้ฉัน... เดาถูกใช่ไหม
ฉันถูกไล่ออก แต่เดชะบุญคุณพระช่วย บรรณาธิการกำลังต้องการนักเขียน ฉันกำลังจะเดินออก
จากประตู รู้สึกเศร้าสลด กลัวว่าพ่อแม่จะคิดอย่างไร เมื่อฉันได้ยินเธอตะโกนถามว่า "นี่โจแอน
เธอเขียนหนังสือได้ดีกว่าพิมพ์ดีดหรือเปล่า" ฉันตอบว่า "ค่ะ แน่นอน" แล้วนักเขียนก็แจ้งเกิดเมื่อนิตยสารม้วนเสื่อไปและคณะละครออฟ-ออฟ-บรอดเวย์ที่ฉันร่วมด้วย (ฉันเป็นนักแสดงที่กำลังหาเวที) ขาดคนดูไปจำนวน มาก (ส่วนใหญ่เป็นญาติๆของฉันเอง) ฉันมีโอกาสทดสอบบทกับรายการวิทยุสองชั่วโมงรายวันที่สถานีใหญ่แห่งหนึ่งของนิวยอร์ก ทุกคนประหลาดใจที่ฉันได้งานนี้
เธอเขียนหนังสือได้ดีกว่าพิมพ์ดีดหรือเปล่า" ฉันตอบว่า "ค่ะ แน่นอน" แล้วนักเขียนก็แจ้งเกิดเมื่อนิตยสารม้วนเสื่อไปและคณะละครออฟ-ออฟ-บรอดเวย์ที่ฉันร่วมด้วย (ฉันเป็นนักแสดงที่กำลังหาเวที) ขาดคนดูไปจำนวน มาก (ส่วนใหญ่เป็นญาติๆของฉันเอง) ฉันมีโอกาสทดสอบบทกับรายการวิทยุสองชั่วโมงรายวันที่สถานีใหญ่แห่งหนึ่งของนิวยอร์ก ทุกคนประหลาดใจที่ฉันได้งานนี้
คราวนี้ ครอบครัวของฉันช่วยกันใช้บริการไปรษณีย์ เขียนจดหมายไปถึงสถานีเพื่อบอกว่า
เด็กหน้าใหม่คนนี้ช่างเก่งเหลือเกิน ในที่สุด ฉันพบความสามารถพิเศษของตัวเองนั่นคือการพูด
ในที่ซึ่งเหมาะสม
เด็กหน้าใหม่คนนี้ช่างเก่งเหลือเกิน ในที่สุด ฉันพบความสามารถพิเศษของตัวเองนั่นคือการพูด
ในที่ซึ่งเหมาะสม
วันหนึ่ง มีคนใหม่มาร่วมงานที่สถานีเป็นผู้อำนวยการรายการซึ่งเป็นผู้หญิง สตรีร่างใหญ่
น่าเกรงขามมาทำงานทุกวันกับสุนัขพันธุ์เยอรมันเชปเพิร์ดตัวใหญ่และน่าเกรงขามพอๆกัน
ฉันคิดว่าตัวเองทำงานได้ดีเยี่ยม เธอ (หมายถึงผู้หญิง ไม่ใช่สุนัข) ตัดสินใจว่าไม่ชอบหน้าฉัน
เมื่อเรียกฉันเข้า ไปในห้องทำงานบ่ายวันศุกร์หนึ่ง เธอบอกง่ายๆแค่ว่า "เธอถูกไล่ออก" ทิ้งให้ฉัน
งงงวยว่าเกิดอะไรผิดพลาดร้ายแรงขึ้น
น่าเกรงขามมาทำงานทุกวันกับสุนัขพันธุ์เยอรมันเชปเพิร์ดตัวใหญ่และน่าเกรงขามพอๆกัน
ฉันคิดว่าตัวเองทำงานได้ดีเยี่ยม เธอ (หมายถึงผู้หญิง ไม่ใช่สุนัข) ตัดสินใจว่าไม่ชอบหน้าฉัน
เมื่อเรียกฉันเข้า ไปในห้องทำงานบ่ายวันศุกร์หนึ่ง เธอบอกง่ายๆแค่ว่า "เธอถูกไล่ออก" ทิ้งให้ฉัน
งงงวยว่าเกิดอะไรผิดพลาดร้ายแรงขึ้น
หกเดือนต่อมา หลังโทรศัพท์ติดต่อผู้อำนวยการจัดรายการทุกคนในนิวยอร์ก ฉันได้ทำงานกับ
สถานีวิทยุรายใหญ่อีกแห่ง ทำรายการสี่นาทีด้วยค่าจ้างเพียง 15 เหรียญต่อเรื่อง ในเมื่อมีลูกสอง
และสามีหนึ่งที่เพิ่งเริ่มอาชีพของตัวเอง ฉันจึงลองดู
สถานีวิทยุรายใหญ่อีกแห่ง ทำรายการสี่นาทีด้วยค่าจ้างเพียง 15 เหรียญต่อเรื่อง ในเมื่อมีลูกสอง
และสามีหนึ่งที่เพิ่งเริ่มอาชีพของตัวเอง ฉันจึงลองดู
ทุกวันนี้ ราว 28 ปีต่อมา ฉันยังคงทำงานที่สถานีวิทยุดับเบิลยูโออาร์ เป็นรายการสนทนา
สองชั่วโมงประจำวัน สัมภาษณ์คนดัง นักเขียน และนักการเมือง นำข้อมูลเสนอต่อผู้ฟังกว่า
ล้านคนต่อสัปดาห์ และฉันรักทุกนาทีที่ทำงาน
สองชั่วโมงประจำวัน สัมภาษณ์คนดัง นักเขียน และนักการเมือง นำข้อมูลเสนอต่อผู้ฟังกว่า
ล้านคนต่อสัปดาห์ และฉันรักทุกนาทีที่ทำงาน
ตอนถูกไล่ออกจากงานหลายครั้งหลายครานั้นฉันยังเด็ก แต่กระบวนการคงเหมือนเดิม การถูก
ออกจากงานไม่เลือกอายุหรือเพศ เคล็ดลับอยู่ที่การก้าวออกมาจากที่ซ่อนและลงมือทำสิ่งต่างๆ
ให้เกิดขึ้น และเชอร์ไร เฮนรีก็ทำเช่นว่านี้
ออกจากงานไม่เลือกอายุหรือเพศ เคล็ดลับอยู่ที่การก้าวออกมาจากที่ซ่อนและลงมือทำสิ่งต่างๆ
ให้เกิดขึ้น และเชอร์ไร เฮนรีก็ทำเช่นว่านี้
เชอร์ไรกลับไปอยู่บ้านที่นครนิวยอร์กหลังประสบความสำเร็จในอาชีพการเมืองกับคณะ
รัฐบาลของคลินตันและงานที่รัฐสภา เธอหวังจะเปลี่ยนเส้นทางอาชีพไปเป็นนักพัฒนาในองค์กร
พัฒนาเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง เมื่อองค์กรแห่งนั้นประสบปัญหาทาง การเงิน เธอเป็นคน
สุดท้ายที่เข้าทำงานจึงเป็นคนแรกที่ต้องถูกให้ออก
รัฐบาลของคลินตันและงานที่รัฐสภา เธอหวังจะเปลี่ยนเส้นทางอาชีพไปเป็นนักพัฒนาในองค์กร
พัฒนาเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง เมื่อองค์กรแห่งนั้นประสบปัญหาทาง การเงิน เธอเป็นคน
สุดท้ายที่เข้าทำงานจึงเป็นคนแรกที่ต้องถูกให้ออก
เชอร์ไรบอกว่า "นี่ไม่ใช่งานแรกที่ฉันถูกให้ออก แม้จะยากแต่เราต้องจำไว้ว่าชีวิตยังต้องก้าว
ต่อไปหลังตกงาน" เพื่อนๆที่คอยช่วยเหลือ ความมุ่งมั่น โชค และประวัติการทำงานที่ดีช่วยให้เธอ
ได้งาน ภายในเดือนเดียวก็ได้งานที่เธอเรียกว่าเป็นงานที่พึงพอใจที่สุดในชีวิต นั่นคือระดมทุน
ให้กองทุนสงเคราะห์และพัฒนาแห่งหนึ่งซึ่งให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ประชาชนใน 40 ประเทศ
ต่อไปหลังตกงาน" เพื่อนๆที่คอยช่วยเหลือ ความมุ่งมั่น โชค และประวัติการทำงานที่ดีช่วยให้เธอ
ได้งาน ภายในเดือนเดียวก็ได้งานที่เธอเรียกว่าเป็นงานที่พึงพอใจที่สุดในชีวิต นั่นคือระดมทุน
ให้กองทุนสงเคราะห์และพัฒนาแห่งหนึ่งซึ่งให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ประชาชนใน 40 ประเทศ
เรื่องนี้ผิดกับกรณีของพอล โจนส์ ซึ่งเริ่มทำงานในบริษัทที่ตอนนี้คือเจพีมอร์แกน เชส
ตั้งแต่เรียนมัธยมปลายและไต่เต้าขึ้นไปจนเป็นผู้อำนวยการ หลังทำงานได้ 31 ปี อาชีพของ
พอลก็สิ้นสุดเมื่องานของเขาถูกตัดโอนไปให้บริษัทในอินเดียทำแทน พอลเพิ่งอยู่ในวัย
40 เศษและแม้จะไม่มีเงินบำนาญ เขาก็ได้รับเงินทดแทนเท่ากับเงินเดือนสองปี ในเมื่อลูกๆ
เรียนจบแล้ว เขากับภรรยาจึงตัดสินใจว่า ไม่เอาอีกแล้วความเครียดจากการทำงานบริษัท
พวกเขาจะเริ่มทำอะไรของตัวเอง
บังเอิญสิ่งที่พวกเขาชอบคือสุรา (ระบุให้ชัดเจนคือคอนญัก) และการท่องเที่ยว พอล
เริ่มธุรกิจพัฒนาและทำตลาดคอนญักสำหรับผู้หญิง เขาเป็นนายของตัวเองและเต็มไปด้วย
ความรู้สึกตื่นเต้นผจญภัยแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้น "ถ้าพวกเขาไม่บีบผม ผมก็ยังคงอยู่ในบริษัท
รอว่าเมื่อไหร่จะถึงคราวของตัวเอง" พอลกล่าว
เริ่มธุรกิจพัฒนาและทำตลาดคอนญักสำหรับผู้หญิง เขาเป็นนายของตัวเองและเต็มไปด้วย
ความรู้สึกตื่นเต้นผจญภัยแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้น "ถ้าพวกเขาไม่บีบผม ผมก็ยังคงอยู่ในบริษัท
รอว่าเมื่อไหร่จะถึงคราวของตัวเอง" พอลกล่าว
ลินน์ เชอร์ ผู้สื่อข่าวมือรางวัลของสถานีโทรทัศน์เอบีซี เขียนไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติว่า
เธอยังทำงานอยู่ที่กับสถานีดับเบิลยูซีบีเอส-ทีวีในนิวยอร์กตอนมีคนยื่นหนังสือพิมพ์ เดอะโพสต์
ฉบับเช้าให้ หน้าหลังของหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าลินน์ เชอร์กำลังจะลาออกจากซีบีเอสเพื่อไปเขียนหนังสือ เธออดคิดไม่ได้ว่านี่เป็นอุบายไม่ให้เธอตีจากจึงไม่วิตก กระทั่งผู้อำนวยการข่าวโทรฯมา
บอกว่า "เธอไม่ได้รับการต่อสัญญาและจะไม่ได้ออกอากาศอีก เชิญเก็บของไปได้ทุกเวลา"
เธอยังทำงานอยู่ที่กับสถานีดับเบิลยูซีบีเอส-ทีวีในนิวยอร์กตอนมีคนยื่นหนังสือพิมพ์ เดอะโพสต์
ฉบับเช้าให้ หน้าหลังของหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าลินน์ เชอร์กำลังจะลาออกจากซีบีเอสเพื่อไปเขียนหนังสือ เธออดคิดไม่ได้ว่านี่เป็นอุบายไม่ให้เธอตีจากจึงไม่วิตก กระทั่งผู้อำนวยการข่าวโทรฯมา
บอกว่า "เธอไม่ได้รับการต่อสัญญาและจะไม่ได้ออกอากาศอีก เชิญเก็บของไปได้ทุกเวลา"
ลินน์บอกว่า "ฉันรู้สึกเหมือนล้มเหลว" แย่กว่านั้น เมื่อมีคนถามผู้บริหารรายหนึ่งที่ไม่ระบุชื่อว่า
ทำไมจึงไล่เธอออก เขาตอบว่า "ไหล่ของลินน์กว้างเกิน จับภาพโคลสอัปแล้วดูอึดอัด"
ทำไมจึงไล่เธอออก เขาตอบว่า "ไหล่ของลินน์กว้างเกิน จับภาพโคลสอัปแล้วดูอึดอัด"
"เมื่อนึกย้อนกลับไป" ลินน์เขียนไว้ "ฉันอายุแค่ 32 และเรื่องนี้กลับกลายเป็นสิ่งดีที่สุด
ที่เกิดขึ้นกับฉัน เป็นบทพิสูจน์ว่าฉันยืนหยัดอยู่ได้และไม่ยอมแพ้ ซึ่งหมายถึงการหลุดพ้นเพื่อ
ก้าวขึ้นสู่อีกระดับ" เธอได้งานที่เอบีซีนิวส์ ทำข่าวการหาเสียงทางการเมือง ข่าวประชุมและ
เหตุการณ์พิเศษต่างๆ รวมทั้งรายการดังอย่าง 20/20 นับแต่นั้นมา
ที่เกิดขึ้นกับฉัน เป็นบทพิสูจน์ว่าฉันยืนหยัดอยู่ได้และไม่ยอมแพ้ ซึ่งหมายถึงการหลุดพ้นเพื่อ
ก้าวขึ้นสู่อีกระดับ" เธอได้งานที่เอบีซีนิวส์ ทำข่าวการหาเสียงทางการเมือง ข่าวประชุมและ
เหตุการณ์พิเศษต่างๆ รวมทั้งรายการดังอย่าง 20/20 นับแต่นั้นมา
และบางครั้งคุณอาจไม่ตระหนักว่าคุณทำให้ตัวเองถูกไล่ออก แดน ซาวากกีชอบไปตั้ง
แคมป์พักแรม เขาทำงานขายคอมพิวเตอร์ให้ฮันนีเวลล์ ขณะเที่ยวพักผ่อนครั้งหนึ่ง เขามองหา
ของขวัญที่สร้างสรรค์และเกิดความคิดที่จะส่งอาหารค่ำเป็นกุ้งมังกรสดๆไปให้ลูกค้าคนโปรด
เขาห่อกุ้งนั้นด้วยตัวเอง ใส่เนยและคีมกะเทาะเปลือกกุ้งลงไปด้วย บรรทุกใส่ท้ายรถ และเริ่มนำ
ของขวัญไปส่ง เขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ที่จริง ลูกค้าคนหนึ่งถึงกับชวนเขาให้เริ่มธุรกิจ
กุ้งมังกรด้วยกัน แดนหัวเราะต่อคำชักชวนดังกล่าว
แต่กระนั้น พนักงานขายคอมพิวเตอร์คนนี้กลับไม่สามารถสลัดความคิดเกี่ยวกับกุ้งมังกร
ออกไปได้ คิดว่าน่าจะลองทำเป็นงานอดิเรกหรือรายได้เสริม ขณะไปทำงานตามมอบหมาย
ที่ชิคาโก เขาโน้มน้าวสถานีวิทยุท้องถิ่นแห่งหนึ่งให้โฆษณาแลกกับกุ้ง นายของนายบังเอิญ
ได้ยินข่าวว่าพนักงานขายมือรางวัลของเขาไปเร่ขายกุ้งแทนที่จะเป็นคอมพิวเตอร์ แดนจึง
ถูกให้ออก
ออกไปได้ คิดว่าน่าจะลองทำเป็นงานอดิเรกหรือรายได้เสริม ขณะไปทำงานตามมอบหมาย
ที่ชิคาโก เขาโน้มน้าวสถานีวิทยุท้องถิ่นแห่งหนึ่งให้โฆษณาแลกกับกุ้ง นายของนายบังเอิญ
ได้ยินข่าวว่าพนักงานขายมือรางวัลของเขาไปเร่ขายกุ้งแทนที่จะเป็นคอมพิวเตอร์ แดนจึง
ถูกให้ออก
หลังส่งคืนรถบริษัท เขาเริ่มคิดว่าบางทีนี่อาจเป็นชะตาลิขิต ขณะเล่นโทรศัพท์มือถือ
ในคืนนั้นโดยลองโทรฯไปที่เบอร์ 1-800-LIVELOB หมายเลขนั้นยังว่างอยู่ จากนั้น แดน
หนุ่มกุ้งมังกรก็แจ้งเกิด ทุกวันนี้ หลังผ่านไป 20 ปี แดนยังคงขายอาหารค่ำผ่านบริษัทของ
เขาชื่อล็อบสเตอร์แกรม เป็นงานที่ทำแล้วสนุกสุขใจไม่มีสิ่งใดเปรียบ
ในคืนนั้นโดยลองโทรฯไปที่เบอร์ 1-800-LIVELOB หมายเลขนั้นยังว่างอยู่ จากนั้น แดน
หนุ่มกุ้งมังกรก็แจ้งเกิด ทุกวันนี้ หลังผ่านไป 20 ปี แดนยังคงขายอาหารค่ำผ่านบริษัทของ
เขาชื่อล็อบสเตอร์แกรม เป็นงานที่ทำแล้วสนุกสุขใจไม่มีสิ่งใดเปรียบ
คนเหล่านี้ต่างพบหนทางหวนกลับไปสู่อาชีพ ที่เติมเต็ม และพวกเขาล้วนเรียนรู้ว่าความ
เจ็บปวดและอับอายเป็นเรื่องชั่วคราว ดังนั้น ไม่ต้องกลัว จงก้าวไปข้างหน้า ขยับปีกขอ
ความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง และอดทน การถูกไล่ออกไม่ได้หมายถึงชีวิตจบสิ้น
แต่อาจกลายเป็นสิ่งดีที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นกับคุณก็ได้
เจ็บปวดและอับอายเป็นเรื่องชั่วคราว ดังนั้น ไม่ต้องกลัว จงก้าวไปข้างหน้า ขยับปีกขอ
ความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง และอดทน การถูกไล่ออกไม่ได้หมายถึงชีวิตจบสิ้น
แต่อาจกลายเป็นสิ่งดีที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นกับคุณก็ได้